วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

8 วิธีเพิ่มยอดขาย ด้วยการเป็น "มิตร" กับลูกค้า

8 วิธีเพิ่มยอดขาย ด้วยการเป็น "มิตร" กับลูกค้า

ท่านเคยนึกบ้างหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดที่ทำให้คนบางคนยอมเปิดกระเป๋าสตางค์จ่ายเงิน ซื้อสินค้าหรือบริการ และเพราะเหตุใดที่ทำให้คนบางคนเดินออกจากร้านไปแบบไม่มีวันกลับมาอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่เขามีต่อบริษัทของคุณนั่นเอง คุณเองก็สามารถเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ด้วยการ“เป็นมิตรกับลูกค้า” ด้วยวิธีการง่าย ๆ 8 ประการต่อไปนี้

1.พลังแห่งอิสตรี
สิ่งสำคัญประการแรกที่จะเพิ่มยอดขายก็คือต้องเข้าใจว่าลูกค้ามีพฤติกรรมในการซื้ออย่างไร ทราบหรือไม่ว่าการจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างนั้น ผู้หญิงมีส่วนสำคัญมากในการตัดสินใจถึงร้อยละ 60-80 ทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตามห้างสรรพสินค้าที่ใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม ที่ผู้หญิงโปรดปรานนั้นยังใช้ได้ผลเสมอ แต่ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์จะใช้กลยุทธ์ที่ต่างกันเพราะผู้หญิงมีส่วนตัดสินใจเพียงร้อยละ 7 ของผู้ที่มีกำลังซื้อเท่านั้น
2.ประสบการณ์ที่ได้รับสำคัญกว่าราคาสินค้า
การให้บริการที่ดีและการเพิ่มยอดขายควรจะมาคู่กัน แต่บางทีก็แยกจากกันเนื่องจากคนที่เป็นเซลล์ไม่ค่อยสนใจ และ/หรือไม่ช่วยเหลือลูกค้า คุณควรคิดว่าหากคุณเป็นลูกค้าคุณอยากได้บริการอะไร อย่างไร จากนั้นให้ปรับกลยุทธ์ในการให้บริการเสียใหม่ แค่พนักงานพูดจาไม่ดีเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้คุณสูญเสียลูกค้ารายสำคัญไปตลอดกาล
3.ให้ความรู้แก่ลูกค้า
ผู้บริโภคฉลาด ๆ สมัยนี้มีเยอะ พวกเขาจะเปรียบเทียบคุณภาพกับราคาของสินค้า ดังนั้นการจะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณดึงดูดใจพวกเขาได้ คุณควรจะมีแหล่งข้อมูลของสินค้าของคุณที่สามารถอ่านได้สะดวก เช่น แผ่นพับ ใบปลิว วิดีโอ เว็บไซท์ หรือจัดคอสฝึกอบรมต่าง ๆ ให้ลูกค้า เป็นต้น
4.มีจรรยาบรรณ
ผู้บริโภคมักจะไม่ซื้อสินค้าหากภาพพจน์ของผู้บริหารหรือบริษัทไม่ดี ดังนั้นคุณควรจะแสดงให้เห็นว่าคุณบริหารธุรกิจแบบมีจรรยาบรรณ เช่น การรับประกันคุณภาพของสินค้า การคืนเงินหากไม่พอใจ หรือการให้เงินบริจาคกับการกุศลต่าง ๆ เป็นต้น
5.สร้างบรรยากาศในร้าน
ข้อควรคำนึงง่าย ๆ ที่จะตกแต่งร้านก็คือ “หากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานมากเท่าใด พวกเค้าก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้นเท่านั้น” การลงทุนใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ จำพวกสื่อภาพและเสียงจะช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาในร้านนานขึ้น คุณอาจจัดให้มีที่นั่งภายในร้านที่ทั้งผู้หญิงผู้ชายสามารถผ่อนคลาย เปิดเพลงเพราะ ๆ ทันสมัยช่วยด้วย หรือจะเพิ่มความสดชื่นในอากาศด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็มีส่วนเสริมเช่นกัน
6.คุยกับลูกค้า
ถึงแม้สังคมไทยจะเป็นสังคมที่คนไม่ค่อยพูดและขี้เกรงใจ แต่คุณยังสามารถนำวิธีการพูดคุยทักทายกับลูกค้ามาช่วยเพิ่มการขายได้ ให้ลูกค้าได้ซักถามเรื่องต่าง ๆ เป็นการเพิ่มยอดขายและช่วยให้ลูกค้าประทับใจกลับมาซื้อซ้ำหรือไม่ไปซื้อจากที่อื่น เห็นง่าย ๆ ในร้านบางร้านที่ให้พนักงานพูดเสียงดังเป็นระยะว่า “สอบถามได้นะค้า/คร้าบ”
7.การจัดวางสินค้า
คนส่วนมากจะถนัดด้านขวา เมื่อเดินเข้าร้านก็จะเดินชิดขวาและมองไปทางขวาก่อน ดังนั้นคุณควรจะจัดวางสินค้าที่ขายดีหรือต้องการโปรโมทไว้ทางด้านขวา หากคุณวางไว้ทางซ้าย ก็มีแนวโน้มว่าลูกค้าจะเดินผ่านไปและกลับมาโดยไม่มองอีกเลย
8.การซื้อของเป็นเรื่องของอารมณ์
ผู้บริโภคหลายรายหาซื้อของอย่างมีจุดหมาย หากคุณขายสินค้าที่เกี่ยวกับการให้หรือการใช้ส่วนตัวล่ะก็ คุณต้องสร้างบรรยากาศของร้านให้เข้ากับสินค้าที่ขาย เช่น ขายการ์ดอวยพรหรือของขวัญ ก็ควรใช้บรรยากาศและสีที่อบอุ่น จะทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น
จะเห็นได้ว่าการที่จะ“เป็นมิตรกับลูกค้า”นั้นคือการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มเข้ามาในร้าน ซึ่งอาจจะแจกสินค้าตัวอย่าง หรือเอกสารก็ได้ นอกจากนั้นแล้วคุณควรทำแบบสอบถามเพื่อหาข้อเสนอแนะ ติชมจากลูกค้าทั้งหญิงและชาย รวมทั้งจากเซลล์ของร้านเอง เป็นครั้งคราวด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น